tag:blogger.com,1999:blog-59785619681808253382024-02-20T01:28:41.233-08:00วิตามิน Vitaminอาหารที่มี วิตามิน Vitamin หลากหลาย แนะนำวิตามิน อาหารเสริม ให้ท่านศึกษาไปพร้อม ๆ กันLylyhttp://www.blogger.com/profile/03506708745996592031noreply@blogger.comBlogger1125tag:blogger.com,1999:blog-5978561968180825338.post-86644270813098456682017-11-29T22:48:00.003-08:002017-12-01T19:55:43.675-08:0016 ชนิดของอาหารที่มีวิตามินเอสูง<h2 style="text-align: center;">
<b>ขอแนะนำ อาหารที่มีวิตามินเอสูง</b></h2>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgyIyLSS5Zv935JH3gsVY6iegxuX9FPs6EWYpJQ7MY4dXPwD0tKVVQUaXJZy4dgR6Cq3_x6L54jPaHmJfEoO6aMY-w5ZzV6tQjYSm7b6YzdNbWgvmtBQ5PCci8QPahA-oBWoUVhU3gHy64/s1600/Vitamin-A.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="299" data-original-width="320" height="373" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgyIyLSS5Zv935JH3gsVY6iegxuX9FPs6EWYpJQ7MY4dXPwD0tKVVQUaXJZy4dgR6Cq3_x6L54jPaHmJfEoO6aMY-w5ZzV6tQjYSm7b6YzdNbWgvmtBQ5PCci8QPahA-oBWoUVhU3gHy64/s400/Vitamin-A.jpg" width="400" /></a></div>
<div style="text-align: center;">
<br /></div>
<br />
วิตามินเอ ( Vitamin A ) เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน ค้นพบโดย ดร. อี.วี. แมคคอลลัม ( E.V. McCollum ) นักวิทยาศาสตร์ชาวสหรัฐอเมริกา ร่างกายของเราสามารถสะสมวิตามินเอได้นานมากอาจนานได้ถึง 1 หรือ 2 ปี โดยเก็บไว้ในชั้นเซลล์ไขมัน ด้วยวิตามินเอเป็นวิตามินที่ละลายในไขมันดังนั้นวิตามินเอจะถูกดูดซึมไปใช้ในร่างกายได้ดีที่สุดเมื่อกินร่วมกับอาหารที่มีน้ำมันหรือไขมันเป็นส่วนประกอบนั่นเองค่ะ และเมื่อร่างกายของเราใช้วิตามินเอไม่หมดก็จะถูกเก็บสะสมไว้ที่ตับ และวิตามินเอมีหน้าที่ช่วยในการมองเห็น การเจริญเติบโตของกระดูก การแบ่งตัวของเซลล์ การกระตุ้นภูมิคุ้มกันเพื่อต่อสู้กับเชื้อโรคซ่อมแซมผิวของตาและหลอดลมทำให้เชื้อเข้าสู่ร่างกายยากขึ้น อีกทั้งวิตามินเอยังช่วยกระตุ้นให้เซลล์เม็ดเลือดขาวโดยเฉพาะ Lymphocyte ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตได้อย่างปกติไม่ชะงักหรือหยุดการเจริญเติบโตก่อนวัย<br />
<br />
<h3>
<b>วิตามินเอจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ</b></h3>
<br />
1. อยู่ในรูปแบบวิตามินอยู่แล้ว ( Proformed Vitamin A ) หรือเรียกว่า Retinol ซึ่งได้มาจากเนื้อสัตว์ เช่น น้ำมันตับปลา อาหารประเภทเนื้อ ไข่ ตับและเครื่องใน<br />
<br />
2. กำลังจะเป็นวิตามินเอ ( Provitamin A ) หรือเรียกว่า เบต้า แคโรทีน (Beta-Carotene) เป็นสารที่เมื่อเข้าสู่รางกายจึงได้รับการเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ พบมากในผักสีต่างๆ เช่น แครอท ผักโขม<br />
โดยร่ายกายคนเราต้องการวิตามินเอในแต่ละวันอยู่ที่วันละ 4,000 - 5,000 IU ซึ่งการได้รับวิตามินเอไม่เพียงพอจะส่งผลต่อร่างกายของเราโดยเฉพาะดวงตา ผิวหนัง และระบบภูมิต้านทานโรค อีกทั้งยังช่วยป้องกันอาการเบื่ออาหาร ( แต่ในทางกลับกันถ้าได้รับมากเกินไปก็จะมีผลตรงกันข้าม )<br />
<h4>
<b><br /></b><b>ชนิดของอาหารที่มี วิตามินเอสูง</b></h4>
<b>1. มันหวาน</b><br />
มันหวานที่มีเนื้อข้างในออกสีเหลืองๆ ส้มๆ เวลาเอาไปนึ่ง ต้ม หรือเผา เมื่อนำมารับประทานจะมีรสชาติหวานมัน ของโปรดของใครหลายคนเลยล่ะค่ะ ซึ่งในมันหวานอุดมไปด้วยวิตามินเอที่ถือว่าอยู่สูงเป๋นอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ โดยมันหวานปริมาณ 100 กรัม มีวิตามินเอสูงถึง 19218 IU เลยล่ะค่ะ<br />
<br />
<b>2. ผักตำลึง</b><br />
ผักที่หารับประทานง่ายๆ ตามบ้านเรือนอย่างผักตำลึงของเราก็ไม่แพ้ผักใดๆ ในโลกที่ให้วิตามินสูง ซึ่งผักตำลึงปริมาณ 100 กรัม มีวิตามินเอสูงถึง 18608 IU เลยล่ะค่ะ<br />
<br />
<b>3. แครอท</b><br />
แครอทเป็นอีกหนึ่งชนิดของอาหารที่เป็นแหล่งวิตามินเอชั้นยอด ถ้านึกไม่ออกว่าจะเสริมวิตามินเอจากการรับประทานอาหารชนิดไหน เปิดตู้เย็นจัดแครอทมาทานกันได้เลยค่ะ ซึ่งแครอทปริมาณ 100 กรัม มีวิตามินเอสูงถึง 17033 IU<br />
<br />
<b>4. ตับวัว</b><br />
วิตามินเอไม่ได้มีแค่ในผักหรือผลไม้เท่านั้นโดยมีอยู่ในอาหารประเภทเนื้อสัตว์อย่าง ตับวัวอีกด้วย ซึ่งวิตามินเอที่อยู่ในตับวัวนั้นเป็นวิตามินเออยู่ในรูปแบบวิตามินอยู่แล้ว (Proformed Vitamin A) คือสามารถออกฤทธิ์ได้ทันทีหรือเรียกว่า Retinol นั่นเองค่ะ ซึ่งตับวัวปริมาณ 100 กรัม มีวิตามินเอสูงถึง 13621 IU<br />
<br />
<b>5. ผักเคล ( Kale )</b><br />
ผักเคลเป็นผักคล้ายกับผักตระกูลเดียวกับผักคะน้าอีกทั้งรสชาติก็คล้ายคลึงกันอีกด้วย และกูถูกยกให้เป็นราชินีแห่งผักใบเขียวที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและหนึ่งในสารอาหารที่มีอยู้สูงก็คือวิตามินเอค่ะ ผักเคลปริมาณ 100 กรัม มีวิตามินเอสูงถึง 13621 IU<br />
<b><br /></b>
<b>6. ฟักทอง</b><br />
ส่วนใหญ่หลายคนจะจำได้ว่าถ้าอยากบำรุงสายตาต้องกินฟักทองและนั่นก็ถูกค่ะ เนื่องจากฟักทองมีวิตามินเออยู่สูงนั่นเอ จะเห็นได้ว่าฟักทองปริมาณ 100 กรัม มีวิตามินเอสูงถึง 11155 IU<br />
<br />
<b>7. ผักกาดหวาน</b><br />
ผักกาดหวานก็เป็นอีกผักใบเขียวที่มีวิตามินและเกลือแร่อยู่สูงค่ะซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีวิตามินอย่างวิตามินเอที่อยู่สูง ผักกาดหวานปริมาณ 100 กรัม มีวิตามินเอสูงถึง 8710 IU<br />
<br />
<b>8. เอพริคอตแห้ง</b><br />
ผลเอพริคอตแห้งให้วิตามินที่สูงมากถ้าใครกำลังมองหาผลไม้แห้งทานเล่นแถมยังให้วิตามินเออีกก็อย่ามองข้ามผลไม้แห้งอย่างเอพริคอตแห้งนะคะ เอพริคอตแห้งปริมาณ 100 กรัม มีวิตามินเอสูงถึง 12669 IU<br />
<br />
<b>9. แคนตาลูป</b><br />
ผลไม้ที่มีรสชาติหวานฉ่ำอย่างแคนตาลูปไม่ได้ให้แค่ความอร่อยสดชื่นอย่างเดียว กินแคนตาลูปไปปริมาณ 100 กรัม ก็จะได้วิตามินเอสูงถึง 3382 IU<br />
<br />
<b>10. พริกหวานสีแดง</b><br />
พริกหวานที่เราเห็นกันบ่อยๆ จากการนำมาประกอบอาหารประเภทผัดโดยเฉพาะพริกหวานสีแดงที่มีวิตามินเออยู่ไม่ใช่น้อยเลยค่ะ โดยพริกหวานสีแดงปริมาณ 100 กรัม มีวิตามินเอสูงถึง 3131 IU<br />
<br />
<b>11. ปลาทูน่า</b><br />
อาหารประเภทเนื้อสัตว์อีกหนึ่งชนิดอย่างปลาทูน่าก็มีวิตามินเอสูงซ่อนอยู่ค่ะ โดยปลาทูน่าปลาทูน่าปริมาณ 100 กรัม มีวิตามินเอสูงถึง 2520 IU<br />
<b><br /></b>
<b>12. ผักโขม</b><br />
ผักใบสีเขียวเข้มอีกหนึ่งชนิดอย่างผักโขมที่มากประโยชน์ก็ให้วิตามินเอที่สูงปริ๊ดเช่นเดียวกันค่ะ ผักโขมปริมาณ 1 ถ้วย มีวิตามินเออสูงถึง 2813 IU<br />
<b><br /></b>
<b>13. มะม่วง</b><br />
ที่บ้านเราดีหน่อยหารับประทานผักและผลไม้ง่ายเพราะเป็นประเทศที่อยู่ในเขตร้อน ผลไม้ตามฤดูมีมากมาย โดยเฉพาะมะม่วงค่ะและมะม่วงปริมาณ 100 กรัม มีวิตามินเออยู่ 1082 IU<br />
<br />
<b>14. เนย</b><br />
ในประเทศไทยโดยเฉำาพอาหารไทยไม่ค่อยนิยมใช้เนยมาเป็นส่วนประกอบ แต่จะมีซะมากคงเป็นขนมอบหรือเบเกอร์รี่ เนยก็ให้วิตามินเอได้ไม่น้อยเลยค่ะ ซึ่งเนยปริมาณเพียงแค่ 1 ช้อนโต๊ะ มีวิตามินเออยู่ถึง 1082 IU<br />
<br />
<b>15. บล็อคโคลี่</b><br />
พืชผักประเภทสีเขียวเข้มอย่างบลอคโคลี่ก็ถูกนับเป็นอาหารที่มีวิตามินเอสูงเช่นกัน ใครที่ชอบทานผักผลไม้อยู่แล้ว แค่เลือกรับประทานให้ถูนิดก็จะได้รับวิตามินเอที่เพียงพอแล้วค่ะ โดยบลอคโคลี่ดิบ ปริมาณ 1 ถ้วย มีวิตามินเออยู่ 567 IU<br />
<br />
<b>16. ไข่</b><br />
ไข่เป็นอาหารประเภทเนื้อสัตว์ที่มีวิตามินเออยู่สูงด้วยเช่นกันค่ะ โดยไข่ปริมาณ 1 ลูกใหญ่ จะมีวิตามินเออยู่ถึง 302 IU<br />
<br />
<div style="text-align: center;">
<b>จะสังเกตุเห็นได้ว่าหน่วยปริมาณของวิตามินเอเป็น IU ซึ่งทำความเข้าใจได้ง่าย ๆ ดังนี้</b></div>
<div style="text-align: center;">
<br /></div>
IU มาจาก International Unit และเรียกแบบย่อว่า I.U. เป็นหน่วยวัดมาตรฐานสากลซึ่งเป็นหน่วยที่ใช้อ้างอิงเพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพสารออกฤทธิ์แต่ละชนิด เช่น เมื่อวิตามิน ( vitamin ) ออกฤทธิ์ในร่างกาย ซึ่งกำหนดโดย World Health Organization ( WHO )<br />
<br />
Vitamin A 1 I.U. = 0.3 microgram retinol.<br />
= 0.6 microgram beta-carotene.<br />
Vitamin C 1 I.U. = 50 microgram ascobic acid.<br />
Vitamin D 1 I.U. = 0.025 micorgram cholecalciferol.<br />
Vitamin E 1 I.U. = 0.666 milligram D-alpha-Tocopherol.<br />
= 1 milligram DL-alpha-Tocopherol acetate.<br />
<br />
<br />Lylyhttp://www.blogger.com/profile/03506708745996592031noreply@blogger.com0